หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ศิษย์หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ "สมัยหนุ่มท่านออกนักเลง ใครๆก็รู้จัก เคยไปขอเชือกคาดจากหลวงพ่อขัน หลวงพ่อขันเดินเข้าข้างฝา เอามือคว้าอากาศข้างฝาโล่งๆ ได้เชือกคาดมาเส้นหนึ่ง หลวงพ่อพรหม ทึ่งมาก" หลวงปู่สีวัดสะแก ซึ่งท่านเก่งมากๆ ยังชมว่า "ในอยุธยายุคนี้ เรื่องคงกระพันไม่มีใครเกินท่านพรหม" ในช่วงใกล้ พ. ศ.
2407 แต่มีหลักฐาน ที่บันทึกไว้ว่าสร้างในช่วงเดียวกัน กับเหรียญรุ่นแรก พระดินเผานี้เป็นพระ ที่มีพุทธศิลป์สวยงามมาก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลวงพ่อขัน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรกับพุทธศาสนิกชนทั่วไป กระทั่งเมื่อวันที่ 1 เม. 2486 มรณภาพอย่างสงบด้วยสติสัมปชัญญะที่ครบบริบูรณ์ สิริอายุ 71 ปี พรรษา 51
2527-2533 กลิ่นแห่งความเข้มขลังทางอยู่ยงคงกระพันของหลวงพ่อ ช่างหอมหวนชวนใจ(ลูกผู้ชาย)เกินกว่าพระอาจารย์รูปใดในอยุธยา ทำให้ผู้เขียนต้องไปกราบนมัสการท่านตามประสาคนหนุ่มวัยฉกรรจ์ ที่นิยมความคงกระพันเสาะหาครูอาจารย์ผู้ทรงคุณ ไว้คุ้มครองชีวิตร่างกาย ความอ่อนน้อมถ่อมตนและรอยยิ้มแห่งความเมตตาของท่าน ยังติดตรึงใจผู้เขียนมาจนทุกวันนี้ ผิดแผกแตกต่างจากอาจารย์รุ่นใหม่ไฟแรงที่ล้วนประกาศศักดาเดชานุภาพ อวดอ้างฤทธิ์เกินองค์พระศาสดา ดุจเทพยดาลงมาเกิดก็ไม่ปาน สุดท้ายเห็นหอบเงินหนีสึกไปมีเมียมีลูกกันเสียนักต่อนัก ชื่อเสียงของท่านโด่งดังตั้งแต่ก่อน พ.